บอร์ดเกม (Board game) หรือที่รู้จักกันว่าเป็น เกมกระดาน เป็นเกมที่เหมาะแก่การเล่นในครอบครัวและกับเพื่อนฝูง บอร์ดเกมสามารถเล่นได้ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปจนถึงเกิน 10 คน ขึ้นอยู่กับประเภทและเกมที่แตกต่างกันไปของบอร์ดเกมนั้นๆกับกฏในการเล่นบอร์ดเกมนั้นด้วย เป็นกิจกรรมที่จะช่วยสร้างความสนุกสนานกับคนใกล้ตัว โดยแนวเกมของบอร์ดเกมนั้น ก็สามารถเลือกเล่นได้หลากหลาย อยู่ที่เราจะเลือกเล่น ไม่ว่าจะเป็นการ บลัพ การแข่งขัน การใช้สมอง ฯลฯ ทำให้บอร์ดเกมเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับใครที่ชื่นชอบบอร์ดเกม บอกเลยว่าไม่ควรพลาด
บอร์ดเกมแตกต่างกับบอร์ดเกมออนไลน์อย่างไร
การเล่นบอร์ดเกมนั้น นอกจากจะช่วยให้เราได้สนุกไปกับเพื่อนฝูงและคนใกล้ตัวเราแล้วนั้น ยังช่วยสร้างปฎิสัมพันธ์ที่ดีได้อีกด้วย บอร์ดเกมให้อรรถรสในการเล่นที่สนุกกว่าบอร์ดเกมออนไลน์ เพราะ เราจะได้เห็นพฤติกรรม ท่าท่าง อารมณ์ของผู้เล่น ซึ่งจะแตกต่างจากบอร์ดเกมออนไลน์ที่เราไม่สามารถคาดเดาหรือเห็นหน้าได้อย่างชัดเจน ทำให้อรรถรสในการเล่นไม่อาจเทียบเท่ากับบอร์ดเกมที่ได้เจอหน้ากันจริงๆนั่นเอง
ขอแนะนำ 7 บอร์ดเกม เล่นกับเพื่อนและคนในครอบครัว
1. บอร์ดเกม ซาเลม 1692 (Salem 1692)
บอร์ดเกมซาเลม 1692 หรือที่เรียกกันว่า Salem 1692 เป็นบอร์ดเกมที่อ้างอิงมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในเมือง Salem ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงปี 1692 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ใครหลายคนคงรู้จักหรือได้ยินมาบ้าง นั่นคือ ไต่สวนล่าแม่มดที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ เกมซาเลม เป็นเกมแนวบลัพกัน ด้วยการพูดหลอกล่อและการพูดโกหกเพื่อเอาตัวรอด โดยการแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายชาวบ้าน และฝ่ายแม่มด ซึ่งก็จะใช้วิธีสุ่มและจับการ์ดตัวละคร การเล่นเกม Salem ผู้เล่นฝ่ายชาวบ้านก็จะต้องตามหาว่าใครเป็นแม่มดผ่านการ์ดไต่สวนและบทบาทที่ตนเองสามารถทำได้ และตามล่าแม่มดได้จนครบทุกตน จึงได้รับชัยชนะ ส่วนฝ่ายแม่มดก็ต้องทำให้ฝ่ายชาวบ้านออกจากเกม หรือกลายเป็นแม่หมดจึงจะชนะเกมได้
จำนวนผู้เล่น : 4 – 15 คน
เวลาที่ใช้เล่น : รอบละประมาณ 30-40 นาที
2.บอร์ดเกมเศรษฐี
บอร์ดเกมเศรษฐี หรือที่เรียกกันว่า Monopoly ถือเป็นบอร์ดเกมที่มาในยุคแรกๆ ที่ใครหลายคนรู้จักและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หากให้พูดถึงบอร์ดเกมที่รู้จักดี ก็คงไม่พ้นเกมเศรษฐีแน่นอน วิธีการเล่นเกมเศรษฐี จะเป็นการผลัดกันทอยลูกเต๋าเพื่อเดินไปตามช่องตารางต่างๆ ซึ่งในแต่ละช่องก็จะเป็นสถานที่ให้ผู้เล่นครอบครอง รวมถึงพื้นที่พิเศษที่สามารถครอบครงได้ตามกฏของเกม และกติกาจะแตกต่างกันออกไปตามเวอร์ชั่นของเกมเศรษฐีด้วย ผู้ชนะของเกมเศรษฐีก็คือผู้ที่ครอบครองพื้นที่และรวยมากที่สุดในเกม ส่วนผู้แพ้หรือผู้ที่ล้มละลายจนหมดทรัพย์สินก็จะต้องออกจากเกม
จำนวนผู้เล่น : 2 – 7 คน
เวลาที่ใช้เล่น : รอบละประมาณ 20-40 นาที
3. บอร์ดเกม แวร์วูฟ ( Werewolf )
แวร์วูฟเป็นบอร์ดเกมยอดนิยมอย่างมาก บอร์ดเกมแวร์วูฟ หรือที่เรียกเต็มว่า “Ultimate Werewolf” เป็นเกมแนววางแผนกลยุทธ์แบบ Role-play/สวมบทบาท ในการเล่นแวร์วูฟ จะแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายชาวบ้านและฝ่ายหมาป่า โดยจะมีการ์ดบทบาทตัวละครแจกให้ผู้เล่นด้วยการสุ่ม โดยผู้เล่นจะต้องสวมบทบาทตามการ์ดตัวละครที่ได้นั้นๆ โดยการที่ฝ่ายชาวบ้านจะชนะได้นั้น จะต้องช่วยกันโหวตหมาป่าออกโดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นหมาป่า และ หมาป่าจะชนะได้โดยการสังหารชาวบ้านในช่วงเวลากลางคืน หากสังหารชาวบ้านได้หมด หมาป่าก็จะเป็นฝ่ายชนะ
จำนวนผู้เล่น : 6 – 14 คน (สามารถเล่นได้สูงสุดถึง 70 คน)
เวลาที่ใช้เล่น : รอบละประมาณ 20-60 นาที
4. บอร์ดเกม Splendor
ถือว่าเป็นอีกบอร์ดเกมหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ซึ่งมีวิธีการเล่นที่ไม่ยากเกินไป คอนข้างง่าย และเล่นได้หลากหลาย บอร์ดเกม Splendor เล่นได้ทุกเพศทุกวัย เป็นบอร์ดเกมที่ให้ความบันเทิง ช่วยส่งเสริมความคิด วิธีการเล่น Splendor ผู้เล่นทุกคนจะได้รับบทเป็นพ่อค้าเพชร ที่จะได้ใช้วิธีการและกลไกในการหาเพชนเข้ามาขายในร้าน เพื่อที่จะนำมาซื้อการ์ดสะสม และสร้างชุดการ์ดเพื่อสะสมแต้มของตนเองขึ้นมา ระหว่างการเล่นเกม Splendor ผู้เล่นจะผลัดกันหยิบเพชรหรือทอง หรือใช้เพชรหรือทองที่เคยหยิบไปเพื่อซื้อการ์ดไปใช้อัพเกรดคะแนนของตนเอง ซึ่งหากใครทำคะแนนได้ถึงที่กำหนดก่อนก็จะเป็นผู้ชนะ บอร์ดเกม Splendor มีวิธีการเล่นที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อนเกินไป เหมาะแก่การใช้ความคิด สร้างกลยุทธ์ในการชนะเกม
จำนวนผู้เล่น : 2 – 4 คน
เวลาที่ใช้เล่น : รอบละประมาณ 20-40 นาที
5. บอร์ดเกม Avalon
ถ้าใครสนใจเกมแนววางแผน ใช้ความคิดและมีการใช้จิตวิทยาในการเล่น ก็คงไม่พ้นบอร์ดเกมอย่าง Avalon นอกจากจะต้องวางแผนและหลอกฝ้ายตรงข้ามแล้วนั้น ก็ยังต้องใช้การวิเคราะห์พอสมควร โดย Avalon เป็นเกมที่ทำมาจากวรรณกรรมชื่อดังที่แต่งขึ้น วิธีการเล่น ก็จะแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายผู้ภักดีต่อกษัตริย์อาเธอร์ และฝ่ายต่อต้านที่เป็นฝั่งชั่วร้ายอย่าง มอเดร็ด ผู้เล่นในเกม Avalon จะได้รับการ์ดตัวละครของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และได้รับบทบาทสมมติเพื่อช่วยเหลือฝ่ายของตนเองให้ได้รับชัยชนะ โดยเป้าหมายของฝ่ายผู้ภักดีต่อกษัตริย์อาเธอร์ก็จะต้องทำภารกิจให้สำเร็จครบ 3 ครั้ง เพื่อชนะเกม ส่วนฝ่ายต่อต้านก็จะต้องทำให้ภารกิจล้มเหลว 3 ครั้ง หรือสามารถฆ่าพ่อมด ‘เมอร์ลิน’ บุคคลสำคัญของฝ่ายผู้ภักดีได้ในตอนจบของเกม ก็จะเป็นผู้ชนะ
จำนวนผู้เล่น : 5 – 10 คน
เวลาที่ใช้เล่น : รอบละประมาณ 30-40 นาที
6. บอร์ดเกมสามก๊ก
บอร์ดเกมสามก๊ก เกมแนววางแผนกลยุทธ์เพื่อแย่งชิงความเป็นยุทธจักร เป็นบอร์ดเกมวางแผนกลยุทธ์ต่อสู้ จุดเด่นของบอร์ดเกมอย่างสามก๊กก็คือสุดท้ายแล้วผู้ชนะมีเพียงหนึ่งเดียว กติกาการเล่นสามก๊ก จะเป็นการเล่นแบบสวมบทบาทสมมุติ ซึ่งผู้เล่นจะได้รับหน้าที่เป็น จักรพรรดิ ผู้ภักดี คนทรยศ และกบฏ ผ่านการ์ดตัวละครต่างๆ ซึ่งเป็นตัวละครตามวรรณคดีเรื่องสามก๊ก บอร์ดเกมสามก๊กเป็นเกมที่ต้องอาศัยการวางแผน การร่วมมือหาพันธมิตร เพื่อโค่นล้มศัตรู ด้วยบทบาทที่แตกต่างกัน ทำให้ความสามารถในการเล่นแตกต่างหลากหลายกันไป ใช้กลยุทธ์ได้หลายวิธีเช่นกัน
จำนวนผู้เล่น : 2 – 10 คน
เวลาที่ใช้เล่น : รอบละประมาณ 30 – 40 นาที
7. บอร์ดเกม Deception
เป็นบอร์ดเกมแนวสืบสวนสอบสวนคดีฆาตรกรรมที่ทุกคนจะได้มีส่วนร่วมโดยการสวมบทบาทเล่นเกมตามกติกา ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย คือ นักนิติวิทยาศาตร์ ฝ่ายนักสืบ และฝ่ายฆาตกร แต่ละคนก็จะมีบทบาทและหน้าที่แตกต่างกันไป จะต้องหาคำตอบให้ได้ว่าใครเป็นคนร้ายที่ก่อคดีนี้ คนร้ายใช้วิธีอะไรในการก่อคดี ทำให้ผู้เล่นในเกมนี้จะต้องคอยจับพิรุธเพื่อนๆและยังต้องจับคู่หาหลักฐานหรืออาวุธที่ใช้ฆ่าให้ถูกต้องอีกด้วย เป็นเกมที่จะช่วยส่งเสริมการคิด วิเคราะห์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
จำนวนผู้เล่น : 5 – 12 คน
เวลาที่ใช้เล่น : รอบละประมาณ 20 – 30 นาที
คงจบกันไปแล้วกับบอร์ดเกมน่าเล่นกับเพื่อนฝูงและคนในครอบครัวของเรา ที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและให้ความบันเทิงได้อีกด้วย บอร์ดเกมไม่ใช่แค่เพียงเกมเท่านั้น แต่มันยังช่วยเสริมสร้างหลายสิ่งที่ใครหลายคนก็คงไม่รู้ตัว แถมยังเป็นเรื่องที่ดีอีกด้วย ขอแนะนำบอร์ดเกมเหล่านี้ที่ควรมีติดบ้านไว้ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดความสนุกอย่างนี้แน่นอน หากได้ลองแล้วจะติดใจกันเลยทีเดียวเชียว
ยังมีบอร์ดเกมอีกมากมายที่ยังรอให้คุณได้มาร่วมสนุกกัน บอร์ดเกมที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ไม่ว่าจะเรื่องของรูปแบบการเล่น กฏ กติกาและรวมไปถึงการสวมบทบาทที่แตกต่างกันในการเล่น ที่จะทำให้การเล่นบอร์ดเกมนั้น ไม่มีทางน่าเบื่อแน่นอน