งูน่าเลี้ยง 5 อันดับจะเลี้ยงน้องงูทั้งทีเลือกดีๆไปเลยดีกว่า

 สัตว์เลี้ยงในทุกวันนี้มีหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น สัตว์ปีก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำหรือ สัตว์เลือดเย็นเทรนใหม่ที่เป็นที่นิยมในหมู่สาวๆและหนุ่มๆ ก็คือน้องง “งู” ฟู่ๆใช่แล้วละน้องงูเพราะว่าเดี๋ยวนี้การเลี้ยงงูได้รับความนิยขึ้นมากแต่สำหรับคนที่กลัวละก็คงจะไม่กล้าแต่น้องก็ไม่มีพิษร้ายอย่างแน่นอนและไม่ดุร้ายด้วยเราจะขอยกตัวอย่างแต่ละสายพันธ์แต่ละชนิดที่สามารถนำมาเลี้ยงได้อย่างปลอดภัยทั้งคนแล้วก็สัตว์ด้วยแล้วน้องงูแบบไหนที่จัดว่าเป็นน้อง งูน่าเลี้ยง สายพันธุ์ไหนดี

ชนิดของงูที่มีพิษและเป็นสัตว์คุ้มครองที่ห้ามนำมาเลี้ยง

ก่อนเราจะเข้าเรื่องว่างูแบบไหนเลี้ยงได้ ก็จะขอมาอธิบายเกี่ยวกับงูที่มี พรบ.หรือ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ว่ามีชนิดไหนบ้างที่ห้ามจับมาเลี้ยงเด็ดขาดมีทั้งแบบมีพิษและไม่มีพิษด้วย

  1.  งูเหลือม 
  2.  งูหลาม 
  3.  งูแสงอาทิตย์
  4.  งูหลามปากเป็ด
  5.  งูสิงหางลาย หรือ งูสิงลาย
  6.  งูเขียวกาบหมาก
  7.  งูจงอาง
  8.  งูทางมะพร้าวเขียว
  9.  งูทางมะพร้าวดำ หรือ งูทางมะพร้าวมลายู หรือ งูหลุนชุน
  10.  งูทางมะพร้าวแดง (ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลมากนัก)
  11.  งูทางมะพร้าวลายขีด
  12.  งูทางมะพร้าวหางดำ หรือ งูใบ้ ((ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลมากนัก)
  13.  งูสิง 
  14.  งูสิงหางดำ

ณ ปัจจุบันงูที่ได้กล่าวมานั้นเป็นทั้งสัตว์มีพิษร้ายแรงและบางชนิดจัดว่าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ของพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 (เนื้อหาบางส่วนอาจจะมีไม่ครบเพราะบางพันธุ์ของงูนั้นมีความคล้ายกันมาก)

พบกับ TOP 7  น้องงูน่าเลี้ยงแบบไหนดีที่จะทำให้ใจคุณนุ่มฟู

1. Rat snake

งูน่าเลี้ยงอันดับที่หนึ่งชื่อก็ชวนทำให้สับสนแล้วว่าจะเกิดเป็นงูหรือเป็นหนูกันแน่น้า สำหรับ Rat snake จนกลายเป็นคำถามสำหรับคนที่อยากเลี้ยงน้องงูพวกนี้ สรุปง่ายๆน้องไม่มีขาก็เป็นงูไปเลยแล้วกัน Rat snake นั้นสามารถเจอได้อยู่ทั่วทุกมุมโลก มีทั้งใน เอชีย อเมริกา และยุโรปเลยยังไงละแต่ว่าเจอมันบ่อยแบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวไปเพราะน้องงู Rat snake นี้ไม่มีพิษร้ายแถมไม่ดุออกจะทำตัวน่ารักน่าชังที่สามารถจับจองมาเลี้ยงได้โดยมันไม่ได้เป็นสัตว์คุ้มครองแต่อย่างใด

ข้อดี 

  • มีเกล็ดที่แข็งแรงมากแถมเรียบเนียน และผิวที่มันวาวเจิดจ้า
  • รูปร่างถ้าเป็นมุนษย์ละก็จัดว่าผอมเพรียวบาง 
  • สีสันสดใสมีความหลากหลายอยู่มากแล้วแต่ที่จะพบเจอ

ข้อเสีย

ชอบมุดอยู่ในโพร่งหรือในถ้ำที่เราจัดไว้ให้ไม่ค่อยจะยอมออกมาเท่าไหร่หากเราไม่ลากน้องออกมาเอง

สำหรับคนที่ไม่ชอบให้หนูเป็นๆอาจจะไม่เหมาะเพราะน้องชอบออกล่าตอนกลางคืนมากกว่ากินสัตว์ที่ตายแล้ว

หากปล่อยหนูที่ยังไม่ตายตอนน้องยังไม่หิวอาจเกิดอันตรายกับน้องได้เพราะน้องก็ไม่ได้ดุร้ายไปซะทีเดียว

2.Rainbow Boa

Rainbow Boa งูสายพันธุ์นี้มีความหลากหลายมากของสีสันและขนาดที่เป็นเอกลักษณะส่วนตัวของน้องคือมันจะมีสีรุ้งบนตัวเงาแววว่าวสะท้อนกับแสง สามารถพบเจอทั่วไปในป่าของอเมริกาใต้แต่ว่าน้องจะชอบนอนบนต้นไม้มากกว่านอนบนพื้นไม่ก็จะมุดลงไปในดินไปเลยละนะเลยจัดว่าเป็นงูที่ติดอันดับที่คนอยากจะนำมาเลี้ยงมากที่สุดตัวนึงเช่นกัน

ข้อดี

  • แน่นอนอันดับแรก สีสดสวยงามมันแวววาวสะท้อนแสงออกมาเป็นสีรุ้งสวยสดงดงาม

ข้อเสีย

  • อาจจะเป็นประเภทเดียวกันกับงูเหลือมที่มีความยาวของน้องถึง 2 เมตรคงจะแตกต่างจากพันธุ์อื่นๆไปซักหน่อยแต่ถ้าใครชอบก็นำมาเลี้ยงได้เลย
  • กินจุ โดยปกติแล้ว น้องงูที่เรานำมาเลี้ยงมักจะพบว่ากิน 1-2มือต่อวันหรือ 2-3มือก็เกินพอแต่เจ้า Rainbow Boa อาจจะต้องกินมากถึง 5-6 มื้อเลยทีเดียวอาจจะไม่ค่อยดีสักหน่อยหากคุณปล่อยสัตว์เลี้ยงของคุณให้หิว
  • 10,000 รูเบิล หรือราคาประมาณ 6000 บาท ถือว่าเป็นราคาที่เอาเรื่องอยู่พอตัว

3.Ball Python

Ball Python รูปภาพจาก REALITY BALL PYTHON

ถ้าเป็นงูขนาดเล็กแล้วละก็ที่เป็นนิยมคงจะต้องนึกถึงน้อง Ball Python มีความเชื่อง น่ารัก และรักสงบแบบสุดๆไปเลยเพราะหาน้องเจออะไรที่รู้สึกถึงอันตรายน้องจะทำการขดตัวม้วนหน้าม้วนหลังหลับซ่อนมากกว่าจะกระโจนเข้าใส่แต่ว่านะ งู Ball Python นั้นก็เป็นพันธุ์เดียวกับ งูหลามด้วยแหละแต่ดันกลายเป็นว่ามีขนาดเล็กมากที่สุดในโลกไปซะงั้นแต่ถ้าพูดถึงลวดลายและสีสันพอคุณเห็นแล้วอาจจะทำให้ไม่กลัวน้องแถมอยากจับน้องมาถูไถแทนด้วย ส่วนอาหารก็คงจะไม่พ้นหนูขาว ตัวเล็กสักหน่อยเอาไปอุ่นให้น้องกินด้วยละเย็นๆคงจะไม่ชอบ และในปี 2565 ที่ผ่านมามีการเคลมว่าคนไทยได้ทำการข้ามสายพันธุ์ไปจนเกิดเป็นลายใหม่ของโลกเลยแหละ

ข้อดี

  • เป็นสัตว์ตัวเล็กน่ารักน่าถนุถนอม
  • กินน้อยด้วยหนูขาวตัวเล็กๆ

ข้อเสีย

  • มีเพียงข้อเดียวเท่านั้นด้วยราคาที่ไม่ถูกเอาซะเลย ราคาขั่นต่ำอยู่ที่ตัวละ 13,000 จนถึงราคา 90,000 บาท

4.Common King Snake

ถ้าคิดว่างูน่าเลี้ยงอย่าง Common King Snake ก็คงจะพูดไม่ผิดเพราะด้วยจุดเด่นอย่างสีครีมที่แทรกเข้ามาในสีสันต่างๆภายในผิวเสมอ นับว่าเป็นจุดเด่นพิเศษที่สายพันธุ์นี้จะมีให้ได้เลยคนนิยมเลี้ยงมากเพราะมันสามารถ เลี้ยงได้ง่าย สวยงามไม่มีพิษภัยและปลอดภัยกับผู้เลี้ยงมากที่สุดลักษณะของมันจะเด่นชัดมากขึ้นเช่น ส่วนหัวที่มีสีตากลมสวยงามและเกล็ดเรียบ

ข้อดี

  • มีราคาที่สามารถจับถึงได้ง่าย และสามารถหาซื้อได้จากร้านที่เพราะพันธุ์ได้ด้วยราคาเพียง 3000 – 4000 บาทเท่านั้น

ข้อเสีย

  • น้องงูมักจะชอบกินงูด้วยกันเป็นอาหารอาจจะทำร้ายจิตใจคนเลี้ยงแต่สามารถให้หนูขาวเป็นอาหารแทนได้แต่ถ้าจะให้บอกอาหารโปรดของมันก็คือ งูเหมือนกันนั้นเอง
  • น้องไม่ชอบอากาศร้อนทางที่ดีถ้าหากอุณภูมิในห้องร้อนเกินไปอาจทำให้น้องเครียดก็ได้

5.Milk Snake

Milk Snake จัดว่าเป็นงูสายพันธุ์หนึ่งที่เป็นงูน่าเลี้ยงอย่างมาก เพราะว่ามักเป็นที่นิยมสำหรับ คู่รักที่ชอบเลี้ยงงูหรือบุคคลที่ชอบเลี้ยงงู เพราะมีความหลากหลายของชนิดมาก เนื่องจากว่าสายพันธุ์ของมันนั้นได้แบ่งออกไปถึง 28 สายพันธุ์ สีสันสดสวยงาม สะดุดตา มักจะชอบมีสีแดงแทบครีม และแหล่งกำเนิดก็อยู่ที่ประเทศ แคนาดาเป็นหลักอีกด้วย

ข้อดี

  • Milk Snake เป็นงูที่รักสงบ ไม่ดุร้าย ขี้อ้อนกับเจ้า
  • ใช้พื้นที่เลี้ยงไม่เยอะมากแค่กล่องหนึ่งใบก็สามารถให้น้องอยู่สบายได้แล้ว

ข้อเสีย

  • แต่ว่าน้องงู Milk Snake ชอบเอาชนะ งูด้วยกันเองเป็นอย่างมากอีกด้วย จนเกิดกลายเป็นว่าน้องนั้นจะชอบทำตัวนิสัยไม่ดีใส่เพื่อนร่วมสายพันธุ์ และกินพวกเดียวกันเองได้ขนาดงูมีพิษน้องก็สามารถกินได้เช่นกัน

 สรุป :มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง สำหรับการจัดอันดับ งูน่าเลี้ยง ที่ไหนดีคัดสรรมาให้อย่างดี ชอบหรือถูกใจเพื่อนๆบ้างหรือเปล่า ไม่ว่าจะคิดอยากจะเลี้ยงสัตว์แบบไหนประเภทอะไรก็ตามที่ไม่ใช่งูแล้วละก็อย่าได้คิดเลี้ยงตามกระแสเลยเพราะเวลาที่ไม่ต้องการพวกน้องๆสัตว์เลี้ยงแล้วออกจะน่าสงสารไปหน่อยหากต้องการเอาไปปล่อยและสุดท้ายนี้ก็หวังว่าเพื่อนๆจะถูกอกถูกใจไม่มากก็น้อยนะจ้ะ

One thought on “งูน่าเลี้ยง 5 อันดับจะเลี้ยงน้องงูทั้งทีเลือกดีๆไปเลยดีกว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *