สมาร์ทวอทช์ ยี่ห้อไหนดี ในปี 2022 สำหรับคนรักสุขภาพ

smartwatch

สมาร์ทวอทช์ถือเป็นอุปกรณ์ที่ดีเยี่ยมอย่างหนึ่งในการรับการแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ของคุณและการติดตามสุขภาพของคุณได้ตลอดเวลาโดยแค่คุณสวมใส่ไว้ที่ข้อมือ เราได้ลองใช้และรีวิวสมาร์ทวอทช์รุ่นล่าสุดทั้งหมดมาแล้วไม่ว่าจะเป็นของ แอนดรอยด์ และ ไอโฟน เราจะมาจัด 7 อันดับ สมาร์ทวอทช์ยี่ห้อไหนดี ที่ดีที่สุดกัน 

แต่ขอบอกไว้เลยว่า Apple Watch Series 7 เหมือนว่าจะเป็นอะไรที่ชัดเจนมากสำหรับใครที่เลือกใช้ไอโฟนนั้น แต่ก็นั่นแหละคู่แข่งก็มีมากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Huawei, Amazfit และอื่นๆ หากต้องเลือกสมาร์ทวอทช์ ยี่ห้อไหนดี ก็ต้องเลือกยี่ห้อที่ใช้แล้วถูกใจกับคุณมากที่สุด ในการจัดอันดับนี้นั้น เราจะโฟกัสกันในเรื่องของฟีเจอร์ที่ครบครัน น่าสนใจ พร้อมรองรับแอพต่างๆและรองรับการแจ้งเตือนได้ในระดับหนึ่ง ขอแนะนำให้ติดตามและสนใจกับสมาร์ทวอทช์ที่ดีทั้งในเรื่องของการดูแลสุขภาพ ฟิตเนส หากคุณต้องการสิ่งที่ดีสำหรับการใช้ชีวิตของคุณ การเลือกนาฬิกาที่มีฟังชั่นที่เหมาะสมกับคุณก็ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

7 สมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุด 2022

1. Samsung Galaxy Watch 4 Classic – ดีสุดในรอบด้าน

ข้อดี

  • ประสบการณ์การสวมใส่ OS ที่ดีที่สุด
  • การออกแบบสัมผัส
  • ประสิทธิภาพดีเยี่ยม

ข้อเสีย

  • มีฟังชั่นที่ครบครันสำหรับผู้ใช้ Samsung Galaxy เท่านั้น
  • หากต้องการสไตล์ที่เป็นคลาสสิกจะต้องจ่ายเพิ่ม

ฝ่ายการผลิตของ Galaxy Watch  ถือเป็นฝ่ายการผลิตสมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดของ Samsung แล้วหากเทียบกับทางฝั่งของ Apple Watch แต่ Galaxy Watch 4 ซีรีส์ ในปี 2021 ก็ได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุปกรณ์แนวสวมใส่ที่กว้างมากยิ่งขึ้น

The Watch 4 Classic อาจดูเหมือน Galaxy Watch 3 ของปีที่แล้ว พร้อมกรอบที่หมุนได้ที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ต่อมาการใช้งาน Tizen OS อันแสนยาวนานของ Samsung ก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว และผ่านการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Google ทำให้เกิด Wear OS โฉมใหม่ขึ้นมา (พร้อมลายเซ็นบางส่วนของ Samsung tweaks) คือสิ่งที่คุณจะได้พบใน Watch 4 series

นอกเหนือจากประสบการณ์การใช้งานระดับพรีเมี่ยมแล้ว สมาร์ทวอทช์ยังให้สิทธ์กับผู้ใช้งาน Samsung Galaxy ได้เข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพใหม่ๆอีกด้วย เช่น การวิเคราะห์องค์ประกอบของร่างกาย ตลอดไปจนฟีเจอร์ ECG (ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ) และการตรวจจับ AFib (ตรวจจับจังหวะการเต้นของหัวใจที่ไม่สม่ำเสมอ)

หากคุณเป็นผู้ใช้งาน Samsung Galaxy อยู่แล้ว ขอบอกเลยว่า The Watch 4 Classic จะให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดสำหรับคุณเลยก็ว่าได้ แถมคุณยังสามารถจ่ายเพิ่มในระดับพรีเมี่ยมสำหรับสไตล์คลาสสิกได้เช่นกัน บอกเลยว่าคุ้มค่าด้วยการสวมใส่ระดับพรีเมี่ยมที่ไม่เหมือนใคร

2.Apple Watch Series 7 – ที่สุดสำหรับผู้ใช้ไอโฟน

ข้อดี

  • ชาร์จได้ไว
  • กรอบแบบมินิมอล
  • มีฟีเจอร์ให้ใช้มากมาย

ข้อเสีย

  • ไม่มีเซ็นเซอร์แบบใหม่
  • ไม่มีการปรับปรุงเรื่องแบตเตอรี่

ในขณะที่ซีรีส์ 7 เป็นเพียงการอัพเกรดจากซีรีส์ 6 ในปี 2020 แต่ก็คงไม่ได้เป็นสิ่งที่หยุดจากการเป็นหนึ่งในสมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดเหมือนกัน ที่คุณสามารถซื้อได้ หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบในไอโฟนอยู่แล้ว

หลังจากกาารปรับปรุงและพัฒนาจากเมื่อปีก่อนของแอปเปิ้ลวอทช์ ซีรีส์ 7 ก็รวมหลายๆอย่างใหม่ๆเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จที่ไวมากขึ้น (ชาร์ไวขึ้นถึง 33%) และจอภาพที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 20% ในขณะที่มีขนาดบางลงถึง 40% ก็ว่าได้ ทำให้นาฬิกาดูล้ำ ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ยังคงความเข้ากันได้กับสายรัดของ Apple Watch ที่มีอยู่ได้

ด้วยการปล่อย นาฬิกา OS 8 ออกมานอกก่อน ด้วยที่ตัวนาฬิกามีฟังชั่นการสนับสนุนมากมาย ที่จะช่วยในเรื่องของการทำกิจกรรมการออกกำลังกาย ที่มีระบบช่วยตรวจจับและความปลอดภัยของผู้สวมใส่ขณะทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การตรวจจับการล้มขณะขี้จักรยาน เป็นต้น

3. Samsung Galaxy Watch 4 – คุณค่าที่ดีที่สุด

ข้อดี

  • ประสบการณ์การสวมใส่ OS ที่ดีที่สุด
  • การออกแบบที่สามารถปรับแต่งได้
  • ประสิทธิภาพดีเยี่ยม

ข้อเสีย

  • ฟังก์ชั่นครบครันสำหรับผู้ใช้ Samsung Galaxy เท่านั้น

ถ้าคุณไม่ใช่คนที่ชื่นชอบ Watch 4 แบบ Classic แล้วละก็ Watch 4 แบบพื้นฐานที่มีดีไซโดดเด่น ก็ถือเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบที่จะตอบโจทย์คุณโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับรุ่นคลาสสิก ที่ตัวเครื่องจัะมีการจำหน่ายในขนาดเคสสองขนาด มีสีให้เลือกหลากหลายมากขึ้นเพื่อความเป็นเฉพาะตัวที่เหมาะกับบุคคลนั้นมากขึ้น การออกแบบของรุ่นคลาสสิกก็จะมีความทันสมัย พร้อมกับกรอบดิจิตอลที่ใช้การตอบสนองแบบการสัมผัสอีกด้วย 

ฟังก์ชั่นการทำงานบอกเลยว่าแทบจะเหมือนรุ่น คลาสสิกทั้งหมด แต่บอกได้เลยว่า Watch 4 เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทวอทช์ที่มีดีทั้งในเรื่องของคุณสมบัติระดับพรีเมี่ยม ทีมีให้บริการทั้ง Google play store, ฟั่งชั่น ECG (สำหรับผู้ใช้ Samsung Galaxy เท่านั้น) และมีแอพที่รองรับสำหรับบุคคลที่สามอีกมากมาย

4. Fitbit Sense – ดีทึ่สุดสำหรับสายฟิตเนส & ความสุขสบาย

ข้อดี

  • ดีไซน์สวย
  • การแสดงผลออกมาได้ดี
  • นาฬิกากลมกำลังดี

ข้อเสีย

  • ฟีเจอร์บางอย่างถูกปิดกั้นไว้ สำหรับการสมัครสมาชิกแบบพรีเมียมเท่านั้น
  • มีราคาที่สูง

ด้วยการออกแบบที่กลมสวยที่สุดของ Fitbit Sense โดยตัว Fitbit ก็ได้เพิ่มคุณสมบัติด้านสุขภาพใหม่ๆให้กับสมาร์ทวอร์ทมากขึ้น ในระดับที่อยู่บนสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัท

คุณสามารถเรียกนาฬิกาเรือนนี้ได้ว่าเป็ฯ สุดยอดการแจ้งเตือนสำหรับคนวิตกกังวล เลยก็ว่าได้ เพราะฟังชั่นของมันเต็มไปด้วยการแจ้งเตือนต่างๆ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะคอยแจ้งเตือนเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพที่ส่งผลร้ายแรง จะสามารถรู้ได้ว่าจะต้องจัดการดูแลสุขภาพอย่างไรนั่นเอง

การที่มีสติได้อยู่นั้นอาจดูแปลกๆสำหรับคนบางคนไปและเป็นอะไรที่น่ากังวลมากหากคุณมีเวลาว่างเหลือเฟือ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าความเครียดนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อคนเราได้ทุกคน และถ้าหากสามารถจัดการความเครียดได้นั้น ไม่เพียงส่งผลดีต่อร่างกายในระยะยาวเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพภายในในระยะยาวอีกด้วย สมาร์ทวอทช์เรือนนี้เหมาะแก่การติดตามสุขภาพร่างกายและจิตใจได้เป็นอย่างดี ให้คุณได้สามารถใส่สมาร์ทวอทช์เรือนนี้ด้วยราคาที่สูงเช่นเดียวกัน

5. Amazfit GTR 3 Pro – ดีเยี่ยมกับความคุ้มค่าคุ้มราคา

ข้อดี

  • ดีไซน์เพรียวบาง
  • ราคาไม่แพง
  • การแสดงผลที่ดียอดเยี่ยม

ข้อเสีย

  • ขัดขวางการสนับสนุนแอปของบุคคลที่สามชั่วคราว

บอกได้เลยว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีความทะเยอทะยานมากที่สุดเจ้าหนึ่งเลย Zepp Amazfit GTR 3 Pro เป็นรุ่นใหม่ที่ออกมา มีจอแสดงผลที่คมชัดกว่ารุ่นเดียวกันนั่นคือ GTR 3 และรองรับอัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้น ทำให้การทำงานของเครื่องมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ตัดขัด การโต้ตอบของผู้ใช้ราบรื่น

ด้วยระบบปฎิบัติการของ Zepp แบบใหม่ที่จะสามารถเข้าถึงและรองรับแอพของบริษัทอื่นๆได้มากขึ้นในอีกไม่ช้านี้ แต่ตอนนี้บอกไว้เลยตัวสมาร์ทวอทช์แบบใหม่นี้มาพร้อมหน้าปัด 150 แบบ (บางแบบก็เป็นแบบเคลื่อนไหวได้) และรองรับการติดตามกิจกรรมที่ทำได้มากถึง 150 กิจกรรม เช่นเดียวกับ BioSenser ที่ได้รับการแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสามารถใช้งานได้แม้ขณะจะอยู่ในน้ำก็ตาม พร้อมกับการทำงานด้วยคำสั่งเสียงของ Alexa เมื่อตัวสมาร์ทวอทช์มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตหรือตัวเลือกการใช้งานขณะออฟไลน์แบบพื้นฐานหากไม่มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถใช้งานได้

6. Mobvoi TicWatch Pro 3 Ultra – แบตเตอรี่ที่ทนทาน อยู่ได้นาน

ข้อดี

  • มีฟีเจอร์แพ็คให้เลือกมากมาย
  • ออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่น
  • เทคโนโลยีที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

ข้อเสีย

  • จำเป็นต้องใช้งานแอปของบุคคลที่หนึ่ง
  • บางครั้งก็มีปัญหาในการเชื่อมต่อ

Mobvoi’s TicWatch Pro 3 Ultra  คือสมาร์ทวอช์ทที่มีความถึกทน ทนทานมากที่สุด เท่าที่ทางบริษัทนี้เคยผลิตมาเลย การผสานกันเข้าระหว่างเทคโนโลยีจอแสดงผลคู่ที่ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในรุ่น Pro เท่านั้น เข้ากับ ฟอร์มแฟกเตอร์ที่ทนทาน โดยการใช้ Wear OS 2 และทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานมากขึ้น

มันไม่สามารถนำไปเทียบได้กับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของนาฬิกาเจ้าอื่นเลยและเมื่อนำออกมาใช้ข้างนอกในระดับพรีเมี่ยมแล้วนั้นโดยเฉพาะสมาร์ทวอทช์อย่าง Grit X Pro ของ Polar หรือนาฬิกาที่มีฮาร์ดแวร์โดดเด่นอย่าง Amazfit ก็ตาม แต่ก็ยังมีข้อได้เปรียบนิดหน่อยในเรื่องของความทนทานและสมาร์ทวอทช์ที่ให้พื้นที่ใช้งานได้มากเลยทีเดียว

7. Huawei Watch 3 – เป็นทางเลือกแอปเปิ้ลวอทช์ที่ยอดเยี่ยม

ข้อดี

  • ดีไซน์เก๋ไก๋ แข็งแกร่ง
  • ประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลาย
  • เต็มไปด้วยฟังชั่นการใช้งาน

ข้อเสีย

  • ยังมีบัคพวก OS
  • ประสิทธิภาพของไมโครโฟนไม่ดี

ในขณะที่ Watch GT ของ Huawei ถือเป็นเจ้าที่ถือครองตลาดสมาร์ทวอทช์ได้อย่างยาวนานที่สุด แต่ในปี 2021 นี้ Huawei Watch 3 ก็ได้ยกระดับตัวเอง เพิ่มประสบการณ์การใช้สมาร์ทวอทช์ที่บริษัทได้กำหนดขึ้นเอง ด้วยการเปิดตัว HarmonyOS ของตัวเองพร้อมกับประสิทธิภาพการใช้งานที่ทรงพลังและยิ่งใหญ่

Huawei Watch 3 มีให้เลือกหลายรูปแบบและสามารถจับคู่กับสายรัดขนาด 22 มม. ได้อีกด้วย ในขณะที่การตั้งค่าเซ็นเซอร์ที่มีความหลากหลายทำให้เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับการติดตามการทำกิจกรรมต่างๆรวมไปถึงการนอนด้วยเช่นกัน ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่น่าประทับใจของอย่างแอป Huawei Health ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *