ปัจจุบัน คาเฟ่นั่งทำงาน ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนทำงาน นักเรียน นักศึกษา หรือแม้แต่คนทั่วไปนึกถึง ในการเปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือ หรือนั่งพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะทุกวันนี้ที่การ Work Form Home และการเรียนออนไลน์กลายมาเป็นวิถีชีวิตใหม่ของคนในยุคนี้ไปแล้ว จึงทำให้คาเฟ่หรือร้านกาแฟนั่งทำงานกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะมีสถานที่นั่งสบายๆ บรรยากาศดีๆ แล้ว ก็ยังมีเมนูขนมและเครื่องดื่มให้เลือกทานหลากหลาย และที่สำคัญก็คือมี Wifi ฟรีให้ใช้บริการภายในร้านอีกด้วย เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียวจริงๆ
ซึ่งสำหรับใครที่ไม่มีไอเดียว่าจะไปคาเฟ่น่านั่งทำงานที่ไหนดี วันนี้ Naidee Review ได้รวบรวมเอา 8 คาเฟ่นั่งทำงาน ที่มีบรรยากาศดี เดินทางสะดวกมาฝากกัน รับรองว่าจะเป็นไอเดียในการหาสถานที่นั่งทำงานหรืออ่านหนังสือได้ทั้งวัน แบบไม่มีเบื่อแน่นอน!
8 คาเฟ่นั่งทำงาน และร้านกาแฟสำหรับนั่งทำงาน อ่านหนังสือ
1.READ Cafe BKK
ภาพจาก READ Cafe BKK
READ Cafe BKK คาเฟ่นั่งทำงานและ Co-Working space ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม. ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การนั่งทำงานและอ่านหนังสือโดยเพาะ จึงทำให้ร้านมีบรรยากาศสบายๆ ชิลๆ โดยร้านจะตกแต่งในสไตล์ลอฟท์ บวกกับร้านมีพื้นที่ให้นั่ง 2 ชั้น และมีการจัดที่นั่งกระจายๆ กันไม่แออัด ทำให้รู้โปร่งโล่งมากๆ
ภาพจาก READ Cafe BKK
สำหรับเมนูอาหาร ขนม และเครื่องดื่มเองก็มีให้เลือกทานหลากหลายเมนูกว่า 60 รายการ ทั้งอาหารคาว สลัด ขนมหวาน และเครื่องดื่มต่างๆ ในราคาที่ไม่แพงเลย เริ่มต้นเพียง 60 บาทเท่านั้นเอง ทำให้สามารถนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือได้ทั้งวัน โดยที่ไม่ต้องกลัวหิวเลย
———-
READ Cafe BKK
21, 40 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการวันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 11.00 – 21.00 น. (หยุดวันจันทร์)
เบอร์โทร: 02 941 1900
Facebook: READ Cafe BKK
พิกัด: 📍https://goo.gl/maps/MRYVa5pELtE5QZVDA
2.Hario Cafe
ภาพจาก Hario Cafe
Hario Cafe เป็นร้านกาแฟนั่งทำงานจากแบรนด์ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์กาแฟดริป Hario จากประเทศญี่ปุ่น โดยร้านจะตกแต่งในสไตล์ Minimal ที่เน้นโทนสีขาวและกระจกเป็นหลัก จึงทำให้ภายในร้านได้รับแสงธรรมชาติแบบเต็ม ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่งสบาย บวกกับการตกแต่งภายนอกด้วยสวนสไตล์ญี่ปุ่น ก็ยิ่งทำให้เป็นคาเฟ่นั่งทำงานที่มีบรรยากาศชิล และสบายตามากๆ เลย นอกจากนี้ร้านก็มีถึง 2 ชั้น ทำให้มีพื้นที่นั่งหลากหลายที่ ไม่รู้สึกแออัด จะมานั่ง Hang out กับเพื่อนๆ นั่งทำงานหรืออ่านหนังสือก็เหมาะมากๆ
ภาพจาก Hario Cafe
ด้วยความที่ Hario Cafe นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของกาแฟ ดังนั้นเมนูแนะนำของทางร้านก็ต้องหนีไม่พ้นเมนูกาแฟอย่าง Specialty Coffee และกาแฟดริป แต่สำหรับใครที่ไม่ใช่คอกาแฟมากนัก เมนูเครื่องดื่มอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นชาสกัดเย็น Nagai Garden Matcha Dirty แถมยังมีเมนูเค้กน่ารักๆ ให้เลือกทานกันอีกด้วย ซึ่งราคาเริ่มต้นของที่ร้านจะอยู่ที่ 85 บาท
———-
Hario Cafe
โชคชัย 4 ซอย 39 เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการทุกวัน 6.00 – 23.00 น.
เบอร์โทร: 08 5480 2920
Facebook: Hario Cafe
พิกัด: 📍https://g.page/hariocafebkk?share
3.NOXX CAFE
ภาพจาก NOXX CAFE
สำหรับ NOXX CAFE จะเป็นคาเฟ่นั่งทำงานสไตล์ฮิปๆ บรรยากาศโปร่งโล่ง สบายตา ที่ผสมผสานการตกแต่งแบบอินดัสเทรียลและมินิมอลเข้าด้วยกัน โดยภายในร้านจะแบ่งออกเป็น 2 ชั้น จึงเหมาะกับทั้งการนั่งพักผ่อน นั่งทำงานหรืออ่านหนังสือ และจุดเด่นอีกอย่างของร้านนี้ก็คือการมีที่จอดรถให้บริการด้วย แต่ใครไม่อยากขับรถไป ก็สามารถเดินทางโดย MRT มาลงที่สถานีพระราม 9 ก็ได้เช่นกัน
ภาพจาก NOXX CAFE
ในส่วนของเมนูขนมและเครื่องดื่ม NOXX CAFE ก็มีให้เลือกทานหลากหลายเมนูเลย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ มัทฉะ ชา โซดา ไปจนถึงชานมไข่มุก นอกจากนี้ก็ยังเมนูขนมปังโทสต์ทูน่า และแซนวิชอีกด้วย โดยราคาจะเริ่มต้นที่ 75 บาทเท่านั้นเอง
———-
NOXX CAFE
129 ถนนพระราม 9 (หลัง Glory House Building) เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการวันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 9.30 – 17.00 น. (หยุดวันจันทร์)
เบอร์โทร: 02 643 0804
Facebook: NOXX CAFE
พิกัด: 📍https://g.page/noxxcafe?share
4.The Open Door Green
ภาพจาก The Open Door Green
คาเฟ่นั่งทำงานที่ต่อมาที่อยากจะแนะนำ ก็คือร้าน The Open Door Green คาเฟ่ที่มีบริการ Co-Working Space ให้เช่าแบบรายชั่วโมงและแบบเหมาจ่ายทั้งวัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นที่ชาร์จไฟ Wifi ห้องประชุมงาน ตอบโจทย์ทั้งการนั่งทำงานและนั่งอ่านหนังสือ โดยในร้านจะมีพื้นที่ให้บริการทั้งหมด 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็นในส่วนของคาเฟ่ ส่วนชั้นบนจะเป็น Co-Working Space
ภาพจาก The Open Door Green
โดยในส่วนของคาเฟ่นั้น จะมีเมนูเครื่องดื่มและขนมให้เลือกทานหลากหลายเมนู ซึ่งเมนูเด็ดที่ควรลองก็คือ เค้กสไตล์โฮมเมดของทางร้าน และมาการองที่อบสดใหม่ทุกวัน ส่วนราคาเองก็ถือว่าไม่แพงเลย ราคาเริ่มต้นประมาณ 70 – 150 บาท ส่วน Co-Working Space ค่าเช่าจะอยู่ที่ 50 บาทต่อชม.
———-
The Open Door Green
1421 ถ.เพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 9.00 – 20.00 น.
เบอร์โทร: 097 232 5638
Facebook: The Open Door Green
พิกัด: 📍https://goo.gl/maps/bS9jFKE6bfPqJ8856
5.Sheep in the City
ภาพจาก Sheep in the City
ร้าน Sheep in the City คาเฟ่นั่งทำงานใกล้ MRT ลาดพร้าว พร้อมบรรยากาศสบายๆ เหมาะกับการนั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือมากๆ โดยบรรยากาศภายในร้านจะเป็นโทนขาวดำ แต่มีสไลต์ที่เป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกเท่ๆ แต่ยังอบอุ่นและเป็นกันเองอยู่ ซึ่งร้านจะมีทั้งหมด 2 ชั้น จึงมีที่นั่งให้เลือกหลากหลาย และที่สำคัญยังทำให้ร้านไม่ดูแออัดจนเกินไป สำหรับใครที่อยากได้ที่นั่งแบบเงียบๆ สงบๆ ชั้นสองก็ถือว่าตอบโจทย์มากๆ เลยทีเดียว
ภาพจาก Sheep in the City
สำหรับเมนูแนะนำของร้าน Sheep in the City จะเป็นเมนูกาแฟและช็อกโกแลต รวมถึงยังมีเบเกอรี่ต่างๆ ให้เลือกทานอีกด้วย ซึ่งราคาเองก็ถือว่าสมเหตุสมผล โดยลาเต้เย็นของที่นี่จะราคาอยู่ที่ 75 บาท หากเป็นช็อกโกแลตเย็นราคาจะอยู่ที่ 85 บาท หากเทียบกับบรรยากาศร้านและการมีที่นั่งเยอะก็ถือว่าโอเคเลยทีเดียว
———-
Sheep in the City
438 8-9 ถ.ลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์-ศุกร์: 08.00 – 17.00 น., เสาร์-อาทิตย์: 09.00 – 18.00 น.
เบอร์โทร: 02 101 9999
Facebook: Sheep in the City
พิกัด: 📍https://goo.gl/maps/cV3CXue1af971BbA9
6.Cafe Like a Local
ภาพจาก Cafe Like a Local
Cafe Like a Local อีกหนึ่งคาเฟ่นั่งทำงานบรรยากาศดี ที่ตอบโจทย์คนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ในย่านเกษตร-นวมินทร์ได้เป็นอย่างดี โดยร้านจะตกแต่งในสไลต์ Local ตามชื่อร้าน ที่ผสมผสานการตกแต่งด้วยสังกะสี และเก้าอี้หนังสุดคลาสสิก บวกกับสนามหญ้าสีเขียวหน้าร้าน ทำให้บรรยากาศภายในร้านดูโปร่งโล่ง ให้ความสดชื่น สบายตาสุดๆ เหมาะมากสำหรับการเป็น Cafe นั่งทํางาน
ภาพจาก Cafe Like a Local
สำหรับเมนูของร้าน Cafe Like a Local ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะมีหลากหลายเมนูเลยให้เลือกทาน ทั้งเมนูอาหาร ของทานเล่น เครื่องดื่ม และของหวาน ซึ่งหากใครที่เป็นคอกาแฟ ต้องลองสั่งเครื่องดื่มแนะนำที่ชื่อว่า Coffee Like a Local กาแฟรสชาติกลมกล่อม ผสมผสานระหว่างกาแฟ นม และคาราเมล ในราคาเพียง 90 บาท
———-
Cafe Like a Local
ซอยประเสริฐมนูกิจ 2 ถนนประเสริฐมนูกิจ เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 7.00 – 21.00 น.
เบอร์โทร: 096 885 5342
Facebook: Cafe Like a Local
พิกัด: 📍https://goo.gl/maps/gDgZAjrJhbXuafeJ6
7.WAWA Cafe’ and Bar at Never Normal
ภาพจาก WAWA Cafe’ and Bar at Never Normal
สำหรับ WAWA Cafe’ and Bar at Never Normal ถือเป็นอีกหนึ่งคาเฟ่นั่งทำงานที่น่าสนใจ และบรรยากาศดีมากๆ เพราะภายในร้านนั้นจะตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น เน้นสีโทน Warm และใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้ควบคู่ไปกับโซฟาสีพาสเทล ให้ความรู้สึกอบอุ่นและน่ารักมากๆ ซึ่งในร้านก็จะมีโซนที่เป็น Co-Working Space ให้นั่งทำงานหรืออ่านหนังสือได้ นอกจากนี้ทุกคืนวันพุธและพฤหัสบดี ก็จะมีบาร์เปิดให้นั่งชิลกันตอนกลางคืนอีกด้วย
ภาพจาก WAWA Cafe’ and Bar at Never Normal
ในส่วนของเมนูของร้าน WAWA Cafe’ and Bar at Never Normal ก็จะมีให้เลือกทานกันตั้งแต่อาหารจานหลัก ขนมและเครื่องดื่มหลากหลายเมนูเลย เช่น Yuzu Coffee, Ice Chocolate, ชีสเค้ก, สปาเกตตี้เบคอนพริกแห้ง ฯลฯ โดยราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 70 บาท
———-
WAWA Cafe’ and Bar at Never Normal
ที่อยู่: 35/37 ซอยลาดพร้าว 18 แยก 10 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการวันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 11.00 – 20.00 น. (หยุดวันจันทร์)
เบอร์โทร: 083 838 2762
Facebook: WAWA Cafe’ and Bar at Never Normal
พิกัด: 📍https://goo.gl/maps/xe9hoAjWjFGYLkPb9
8.Wake Up Coffee
ภาพจาก Wake Up Coffee
คาเฟ่นั่งทำงานที่สุดท้ายที่จะแนะนำกัน ก็คือ Wake Up Coffee ร้านกาแฟที่มีคอนเซป Space to do more ที่เป็นมากกว่าแค่ร้านกาแฟทั่วๆ ไป แต่ยังเป็นพื้นที่สำหรับให้คนมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือนั่งพักผ่อน ถือเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งกว้างขวาง มีบริการไวไฟ พร้อมเครื่องดื่มและขนมหลากหลายเมนู เปิดให้บริการตลอด 24 ชม.
ภาพจาก Wake Up Coffee
โดยเมนูของร้าน Wake Up Coffee จะขึ้นชื่อในเรื่องของกาแฟพรีเมียม ที่คัดเมล็ดกาแฟจากแหล่งผลิตที่มีคุณภาพ นำมาคั่วอย่างพิถีพิถันในแบบฉบับของทางร้าน ซึ่งเมนูแนะนำจะเป็นกาแฟเย็น Signature Wake Up ราคา 65 บาท
———-
Wake Up Coffee
สาขาเดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า จังหวัดกรุงเทพมหานครฯ
เปิดให้บริการทุกวัน 24 ชม.
เบอร์โทร: 02 100 1122
Facebook: Wake Up Coffee
พิกัด: 📍https://g.page/wakeup24hrs-thesense-pinklao?share
เป็นยังไงกันบ้างกับ 8 คาเฟ่นั่งทำงาน ที่ทาง Naidee Review นำมาฝากกัน หวังว่าจะเป็นไอเดียดีๆ ให้กับคนที่กำลังมองหาคาเฟ่หรือร้านกาแฟนั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือ หรือนั่งพักผ่อน Hang Out กับเพื่อนๆ ได้นำไปเลือกดูกัน แต่ถ้าหากเลือกไม่ได้จริงๆ แนะนำให้ลองไปอาทิตย์ละ 1 คาเฟ่กันไปเลย^^ อย่างคำพูดที่ว่า “Why choose when you can have them all” เพราะนอกจากจะได้เปลี่ยนบรรยากาศแล้ว การได้ลองไปในที่ใหม่ๆ บ้าง ก็อาจจะทำให้เราได้พบเจอผู้คน หรือได้ไอเดียใหม่ๆ ในการทำงานเพิ่มขึ้นก็เป็นได้นะ
