สำหรับเจ้าของบ้านใหม่หรือผู้ที่กำลังจะซื้อบ้าน หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรละเลย คือ การตรวจบ้านก่อนโอน ก่อนที่จะเซ็นรับมอบบ้านเพื่อรับกรรมสิทธิ์ ถึงแม้ว่าจะสภาพภายนอกหรือภาพรวมของตัวบ้านจะดูดี บางครั้งก็อาจจะมีส่วนที่เสียหายหรือจุดบกพร่องจากงานก่อสร้าง งานตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน ดังนั้น ผู้ซื้อบ้านควรเลือกตรวจสอบสภาพให้ดี เพื่อให้เราได้บ้านที่ตรงตามแบบ ตรงตามความต้องการ และเป็นไปตามข้อตกลงในหนังสือสัญญา บทความนี้ Naidee จะมารีวิวให้ดูว่าเวลา ตรวจบ้าน ตรวจอะไรบ้าง มีจุดไหนที่เราต้องเช็คให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจขึ้นในอนาคต
อุปกรณ์เครื่องมือที่ควรเตรียมพร้อม
- กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์ ใช้สำหรับเก็บภาพถ่ายหากพบเจอจุดที่เสียหายหรือบกพร่อง
- กระดาษโน๊ต ใช้สำหรับแปะตามจุดบกพร่อง และจดบันทึกข้อมูลเพื่อแจ้งกับทางโครงการ
- ไขควงวัดไฟ เพื่อตรวจสอบระบบไฟฟ้า ตรวจเช็คไฟรั่ว เป็นต้น
- ตะลับเมตร สำหรับตรวจวัดระดับแนว
- ค้อนยาง เพื่อตรวจงานปูพื้นปูกระเบื้องว่าเรียบเสมอกันหรือไม่
- เหรียญ เพื่อดูระดับความลาดเอียงของพื้น
- แบบแปลนของบ้าน เพื่อตรวจสอบไปที่ละจุดให้ครบ
บทความที่น่าสนใจ : ก่อนโอนหรือหลังโอน ตรวจบ้านตอนไหนดี?
ตรวจบ้าน ตรวจอะไรบ้าง จุดเช็กลิสต์หลักสำคัญ
- ตรวจสอบโครงสร้าง : การตรวจเช็กสภาพโครงสร้างหลักของตัวบ้าน ว่าไม่มีความเสียหาย เช่น เสาบ้านมีรอยแตกร้าว พื้นรอบตัวบ้านไม่การทรุดตัว
- ตรวจสอบงานประตู หน้าต่าง : ตรวจเช็กว่าประตูและหน้าต่างสามารถเปิด-ปิดได้ตามปกติ วงกบไม่มีปัญหาใดๆ ไม่มีเสียงเวลาเปิดหรือปิด ได้รับการติดตั้งอย่างเรียบร้อย ทดสอบการป้องกันน้ำของหน้าต่างด้วยการฉีดน้ำจากด้านนอก
- ตรวจสอบผนังบ้าน : เจ้าของบ้านควรเช็คดูว่าผนังบ้านของคุณ ไม่มีรอยร้าว ไม่มีน้ำรั่วซึม จนเกิดคราบบนผนัง งานทาสีหรืองานตกแต่งมีความเรียบร้อย
- ตรวจสอบระบบไฟฟ้า-ประปา : สิ่งที่สำคัญเลยคือ ระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ตรวจสอบให้ดีว่าไฟในแต่ละจุดสามารถใช้งานได้ปกติ ไม่มีกระแสไฟฟ้ารั่ว การติดตั้งระบบความปลอดภัย การติดตั้งสายดิน ป้องกันไฟฟ้าช็อต ตรวจเช็กระบบน้ำระบบประปา ไม่มีจุดรั่วซึม การเดินท่อประปาเรียบร้อย ไม่มีการแตกหัก การระบายน้ำภายในห้องน้ำเป็นปกติ
- ตรวจพื้นบ้าน : การตรวจงานปูกระเบื้องหรือการปูพื้น มีความเรียบสม่ำเสมอกัน เวลาเดินไม่รู้สึกว่าบ้านเอียง การติดตั้งมีประสิทธิภาพ ไม่มีรอยแตกหรือบิ่นจากพื้นกระเบื้อง ไม่มีอากาศอยู่ด้านใต้ จนทำให้เกิดโพรง สามารถทดสอบได้ด้วยการนำค้อนยางมาเคาะเพื่อฟังเสียง
- ตรวจงานหลังคา : การตรวจสอบให้ที่สูง หลังคามีความลาดชัน ระบายน้ำฝนได้ดี ไม่มีรอยหลังคารั่ว กระเบื้องหลังไม่มีแตก ติดตั้งครบเรียบร้อยทุกจุด ภายใต้โครงหลังคาเก็บงานดี โครงสร้างหลังคาแข็งแรง วัสดุในการมุงหลังคาไม่มีรอยแตกร้าว
- ตรวจระบบสุขาภิบาล : ตรวจเช็คอุปกรณ์สุขภัณฑ์ต่างๆภายในบ้าน สามารถใช้งานได้ปกติ ระดับแรงดันของน้ำเป็นปกติ ตรวจการระบายน้ำ การเก็บน้ำ การคัดแยกน้ำดีและน้ำเสียของบ่อพักน้ำ บ่อดักไขมันต่างๆ ปั๊มน้ำทำงานได้ปกติ
- ตรวจภายนอกตัวบ้าน : อีกส่วนสำคัญที่ไม่ควรลืม ตรวจเช็กสนามหญ้ารอบบ้าน ไม่มีดินทรุดตัว ประตูบ้านเปิดเปิดได้ดี รั้วมีความแข็งแรง โรงจอดรถมีระดับความเอียง ระบายน้ำได้ดี
ตรวจบ้านเองดีไหม หรือควรใช้ผู้เชี่ยวชาญ
แม้ในเบื้องต้นเราจะสามารถตรวจรับบ้านเองได้ แต่ก็ไม่แนะนำเสมอไป เพราะเราอาจจะตรวจได้ไม่ครบทุกจุด อาจจะมีบางจุดที่เราไม่สามารถสอดส่องไปได้ถึง หรือมองไม่เห็นด้วยสายตาเปล่า ดังนั้น การเลือกใช้บริการวิศวกรตรวจบ้าน ที่มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ตรงมากกว่า จึงถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาว เพราะเราจะต้องอยู่บ้านนี้ไปอีกนานหลายปี ทีมงานบริษัทรับตรวจ จะมีเครื่องมือที่ครบครัน สามารถตรวจสอบได้อย่างละเอียดมากกว่า อีกทั้งยังสามารถให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาต่างๆ หากพบเจอจุดบกพร่องเวลาไปตรวจบ้าน มีรายงานตรวจสอบที่เราสามารถนำไปชี้แจงกับทางโครงการให้มาแก้ไขได้
สรุปแล้ว สำหรับเจ้าของบ้านมือใหม่ ที่พึ่งซื้อบ้านหลังแรกหรือผู้ที่คิดจะซื้อหรือต่อเติมบ้านเพิ่มเติม คงได้รู้กันไปแล้วว่าเวลาเราจะเช็กสภาพบ้าน ตรวจบ้าน ต้องตรวจอะไรบ้าง Naidee ก็ได้ให้เช็กลิสต์ตรวจบ้าน อุปกรณ์ตรวจบ้านที่จำเป็นต้องมีเวลาเข้าตรวจสอบ แต่ทั้งนี้เราก็ไม่ควรประมาทตรวจบ้านเองทั้งหมด เพราะบ้านมีราคาที่สูง เราลงทุนกับบ้านแล้ว ก็ควรจะลงทุนกับคุณภาพด้วย เพราะบางโครงการก็สร้างบ้านมาแบบเร่งรีบ ทำให้เราอาจจะได้บ้านที่ไม่ดีนั่นเอง ดังนั้น ก่อนรับโอนบ้านจากโครงการหรือผู้ขาย ผู้ซื้อต้องไม่ลืมที่จะตรวจบ้านให้ดี เช็กให้ละเอียดทุกจุด เพื่อที่คุณจะได้บ้านที่มีความปลอดภัย พร้อมเข้าอยู่อาศัย ลดปัญหาซ่อมแซมบานปลายไม่รู้จบในอนาคต
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลดี ๆ จาก : https://pass-engineering.com/what-does-a-home-inspection-inspect/

